ไอเดียแต่งบ้าน

white

Month: January 2022

รีโนเวท

สำรวจพื้นที่ภายในบ้านก่อนซ่อมบำรุง ต้องดูตรงจุดไหน เพื่อให้ซ่อมแซมได้ครบถ้วน

สำรวจพื้นที่ภายในบ้านก่อนซ่อมบำรุง ต้องดูตรงจุดไหน เพื่อให้ซ่อมแซมได้ครบถ้วน สำหรับใครที่ต้องการจะบำรุง หรือซ่อมแซมรีโนเวทบ้านอันเป็นที่รักของตนเองให้สวยเหมือนใหม่อยู่ล่ะก็ วันนี้เราขอเสนอ จุดที่ควรเช็คหรือดูให้แต่ละส่วนของบ้าน เพื่อให้การซ่อมแซมบ้านขอเราครบถ้วนทุกจุด แล้วเราควรจะต้องสำรวจที่จุดไหนกันบ้าง วันนี้เราจะพาไปดูกัน พื้นที่ภายในบ้าน ฝ้าเพดาน เริ่มต้นกันที่ฝ้าเพดานซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นได้ง่ายเมื่อเกิดความเสียหาย โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบนฝ้าเพดานมักเป็นการรั่วซึม ซึ่งมองเห็นได้ด้วยร่องรอยความเปียกชื้น คราบเชื้อรา ไปจนถึงน้ำหยดจากฝ้าเพดาน โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นจากท่อประปารั่วซึม หากพบเห็นควรเรียกช่างมาตรวจสอบหรือซ่อมแซมโดยทันที เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาอาจลุกลามทำให้ฝ้าถล่มเสียหายใหญ่ได้ พื้นและผนัง พื้นและผนังเป็นอีกจุดหนึ่งในบ้านที่เสียหายจากการรั่วซึมได้เช่นกัน สังเกตง่าย ๆ ได้จากคราบน้ำ เชื้อรา ไปจนถึงสีผนังและวัสดุปูพื้นลอกล่อน นอกจากนี้ควรสำรวจด้วยว่าพื้นและผนังมีรอยแตกร้าวเสียหายหรือไม่ และหากพบความผิดปกติตามที่ได้กล่าวมานี้ ควรเรียกช่างมาซ่อมโดยทันที เพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดปัญหาเชิงโครงสร้างตามมาได้ หรืออาจพิจารณาว่าจะเปลี่ยนประเภทพื้นและผนังในบ้านหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาเดิมกลับมาอีกครั้ง ระบบไฟฟ้าและประปา ระบบไฟฟ้าและประปา เป็นอีกส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในที่อยู่อาศัยทุกประเภท หากเกิดปัญหาเสียหายขึ้นมา นอกจากจะขัดขวางการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อสมาชิกในบ้านได้ โดยการสำรวจระบบไฟฟ้าและประปาก่อนซ่อมบ้าน สามารถทำได้เบื้องต้นด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ ระบบไฟฟ้า ควรสำรวจสายไฟทั้งภายในและภายนอกบ้าน หากเจอสายไฟขาดชำรุด ควรเปลี่ยนสายไฟโดยทันที และควรสำรวจปัญหาไฟรั่วด้วยการปิดสวิตช์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกจุด และตรวจดูมิเตอร์ไฟฟ้า หากเฟืองยังหมุนอยู่แสดงว่ามีไฟรั่ว ควรเรียกช่างมาซ่อมบ้านโดยทันที ระบบประปา นอกจากการสำรวจร่องรอยการรั่วซึมตามพื้นและผนัง ควรปิดก๊อกน้ำทุกจุดในบ้าน และตรวจดูมิเตอร์น้ำว่ามีมาตรวัดเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากตัวเลขเคลื่อนไหวแสดงว่ามีท่อน้ำรั่วในบ้าน ควรรีบหาจุดที่คาดว่ารั่วซึม …

สำรวจพื้นที่ภายในบ้านก่อนซ่อมบำรุง ต้องดูตรงจุดไหน เพื่อให้ซ่อมแซมได้ครบถ้วน Read More »

การดูแปลนบ้าน

เทคนิคการดูแปลนบ้านและปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

เทคนิคการดูแปลนบ้านและปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แปลนบ้านเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะซื้อบ้านหรือสร้างบ้านเอง แปลนบ้านที่ดีนอกจากจะทำให้บ้านน่าอยู่แล้ว บ้านหลังนั้นยังตอบโจทย์การพักอาศัยอีกด้วย และหากคุณพลาดเลือกแปลนบ้านไม่ดีหรือไม่เข้ากับตัวของคุณมันก็ยากที่จะแก้ไข วันนี้เราจะบอกเคล็ดลับการดูกันดีกว่าว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณาสำหรับเลือกแปลนบ้านที่รักของเราบ้าง ไปดูกันเลย ขนาดพื้นที่ดิน และขนาดตัวบ้าน ก่อนเลือกแปลนบ้านควรพิจารณาจำนวนคนในครอบครัว และงบประมาณ นอกจากนั้นควรเลือกแปลนบ้านง่ายๆ ที่สำคัญกฎหมาย พ.ร.บ. ควบคุมอาคารกำหนดให้ต้องมีระยะห่างระหว่างตัวบ้านกับรั้วอย่างน้อย 2 เมตรสำหรับบ้าน 2 ชั้น และอย่างน้อย 3 เมตรสำหรับบ้าน 3 ชั้น ดังนั้นขนาดความกว้างของตัวบ้านจึงต้องน้อยกว่าความกว้างของที่ดินอย่างน้อย 4 เมตร และความยาวของตัวบ้านก็ต้องน้อยกว่าความยาวของที่ดินอย่างน้อย 4 เมตรเช่นกัน นอกจากนั้นแปลนบ้านควรสอดคล้องกับรูปทรงของที่ดิน เช่นที่ดินเป็นทรงหน้ากว้าง แปลนบ้านก็ควรเป็นแบบหน้ากว้าง และที่ดินเป็นทรงลึก แปลนบ้านก็ควนเป็นแบบทรงลึกเหมือนกัน สภาพแวดล้อม การจัดวางห้องต่างๆ ในแปลนบ้านต้องคำนึงถึงการใช้สอยและสภาพแวดล้อม เช่นห้องนอน และห้องทำงานที่ต้องการความเงียบก็ควรอยู่ในด้านที่ไม่มีเสียงดัง เช่นห้องนอนไม่ควรอยู่ติดถนน หรือด้านที่ติดกับสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ทิศแดด และทิศทางลม ควรกำหนดให้ห้องน้ำ ลานซักล้าง หรือห้องที่มีความชื้น รวมไปถึงห้องที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ อย่างห้องเก็บของ รวมถึงบริเวณที่ได้รับแดดแรงอย่างลาดจอดรถหันไปทางทิศตะวันตกที่รับแดดบ่าย เพื่อช่วยลดความร้อนของตัวบ้าน ควรปลูกต้นไม้หรือสร้างโครงสร้างเพื่อบังแดด สำหรับห้องที่ใช้งานประจำ ทั้งห้องรับแขก …

เทคนิคการดูแปลนบ้านและปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม Read More »

เลือกวัสดุปูพื้นบ้าน ให้เหมากับห้องต่างๆ ในบ้านของเรากัน​

เลือกวัสดุปูพื้นบ้าน ให้เหมากับห้องต่างๆ ในบ้านของเรากัน​

เลือกวัสดุปูพื้นบ้าน ให้เหมากับห้องต่างๆ ในบ้านของเรากัน​ วัสดุในการปูพื้นบ้านเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างนึงในการสร้างบ้านหรือรีโนเวทบ้านใหม่ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามแล้ว ยังต้องรองรับการเดินสัญจรไปมาอยู่เป็นประจำ จึงควรเลือกให้แข็งแรงทนทาน ใครที่คิดอยู่ว่าจะเลือกพื้นบ้านแบบไหนดี วันนี้ทางมีตัวเลือกวัสดุปูพื้นมาเป็นตัวอย่างให้เลือกพิจารณากัน แบบไหนจะเหมาะกับห้องต่างไหน ไปดูกัน พื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้ลามิเนต (Laminate Flooring) คือ วัสดุปูพื้นที่มีลักษณะลวดลายเหมือนไม้จริง และยังผลิตจากผงไม้และเศษไม้เนื้อแข็ง โดยนำมาผสมกับสารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และนำมาบีบอัดกันเป็นแผ่น โดยแผ่นพื้นมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายไปติดตั้งได้ง่าย และติดตั้งได้รวดเร็วด้วยระบบ Click Lock ใครที่ชอบลวดลายไม้และกำลังหาวัสดุปูพื้นบ้านแบบไหนดี พื้นไม้ลามิเนตถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี จุดเด่นของพื้นไม้ลามิเนต ลวดลายไม้สวยงามใกล้เคียงกับพื้นไม้จริง สีสันสวยงาม ไม่ซีดจางง่าย ราคาถูกกว่าไม้จริง มีให้เลือกหลายเกรด ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่ต้องการ ทนทานต่อการขีดข่วน ทนความร้อนจากแสงแดดได้ดี ดูแลรักษาง่าย โดยเช็ดทำความสะอาดได้ตามปกติ ข้อจำกัดของพื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้ลามิเนต ไม่ทนทานต่อความชื้นมากนัก จึงควรติดตั้งให้ห่างจากห้องน้ำ หรือหน้าต่างที่มีความชื้นเข้าถึงได้ง่าย ลวดลายไม้ซ้ำกัน ควรจัดแพทเทิร์นก่อนการติดตั้งให้ดี กระเบื้องยาง SPC กระเบื้องยาง SPC (Stone Plastic Composite) คือ วัสดุปูพื้นที่ผลิตจาก PVC …

เลือกวัสดุปูพื้นบ้าน ให้เหมากับห้องต่างๆ ในบ้านของเรากัน​ Read More »

เกลือไปกำจัดวัชพืชกัน

สาเหตุที่ไม่ควรใช้ “เกลือ” กำจัดวัชพืชในบ้านและสวนของเรา

สาเหตุที่ไม่ควรใช้ “เกลือ” กำจัดวัชพืชในบ้านและสวนของเรา วันนี้เราจะมาพูดถึง “เกลือ” กันสักหน่อย ซึ่งมันมีประโยชน์ในหลากหลายด้าน แต่บางคนอาจเข้าใจผิดหรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูก วันนี้เราจะมาพูดถึงการนำ “เกลือ” ไปกำจัดวัชพืชกัน ว่ามันไม่ควรทำเช่นนี้ด้วยเหตุใด ไปดูกันเลย โดยสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทยได้มีการโพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการใช้เกลือในการกำจัดวัชพืช โดยมีรายละเอียดดังนี้ ปัจจุบันกระแสสังคมถูกปั่นให้กลัวสารเคมีจนขึ้นสมอง ทำให้เกษตรกรมือใหม่ที่บริโภคข่าวสารจากฝ่ายต่อต้านสารเคมี จนเกิดความตื่นตระหนก พยายามหลีกเลี่ยงการใช้สารกำจัดวัชพืช ทำให้มีพ่อค้าหัวใสโฆษณาให้หันไปใช้ “เกลือฆ่าหญ้า” เพราะคนส่วนใหญ่จะเชื่อว่าเกลือต้องปลอดภัยกว่าสารเคมีแน่นอน เพราะเกลืออยู่ในครัวและเราใช้ใส่ในอาหารเกือบทุกจาน เมื่อนำเกลือไปฉีดพ่นที่ใบพืช ความเค็มของเกลือทำให้พืชแสดงอาการใบไหม้ คล้ายอาการที่เกิดจากสารกำจัดวัชพืชที่ถูกแบนไป คือพาราควอต ทำให้คนเชื่อว่าไม่ต้องใช้สารเคมี ก็กำจัดหญ้าได้ แถมปลอดภัยต่อผู้ใช้ด้วยแล้วทำไมเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศไม่ใช้เกลือกำจัดหญ้า ลองถามตัวเองก่อนว่าหมออนุญาตให้เรากินเกลือได้วันละเท่าไหร่ที่ไตจะไม่พัง ความดันจะไม่พุ่งจนเส้นเลือดแตก ในอดีตคนโบราณใช้เกลือถนอมอาหาร ประเทศไหนมีบ่อเกลือ เหมือนมีเหมืองทองคำ เกลือจึงจัดเป็นยุทธปัจจัยหนึ่งในการทำสงคราม ยุคโรมัน เกลือ (Salt) ใช้แทนเงินได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า “Salary” ที่แปลว่า เงินเดือน เกลือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่เราจำเป็นต้องใช้ แต่ใช้ด้วยความระมัดระวัง แต่ในภาคการเกษตรเกลือกลับเป็นพิษต่อพืช เพราะพืชไม่ต้องการโซเดียม จะเห็นว่าในพื้นที่ทำนาเกลือปลูกพืชอะไรไม่ได้ ยกเว้นพืชทนเค็ม ซึ่งมีน้อยชนิดมากและไม่ใช่พืชอาหาร ถ้าใช้เกลือกำจัดวัชพืช เกลือจะทำอันตรายกับพืชปลูก และยังสะสมในดินทำให้เกิดปัญหาดินเค็ม …

สาเหตุที่ไม่ควรใช้ “เกลือ” กำจัดวัชพืชในบ้านและสวนของเรา Read More »

ไอเดียล้ำๆ แต่งห้องน้ำสไตล์โมเดิร์น สวย ล้ำสมัย ด้วยพื้นกระเบื้อง

ไอเดียล้ำๆ แต่งห้องน้ำสไตล์โมเดิร์น สวย ล้ำสมัย ด้วยพื้นกระเบื้อง

ไอเดียล้ำๆ แต่งห้องน้ำสไตล์โมเดิร์น สวย ล้ำสมัย ด้วยพื้นกระเบื้อง ห้องน้ำสไตล์โมเดิร์นได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะนอกจากความสวยงาม น่าใช้งาน ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีมีสไตล์โมให้กับเจ้าของบ้านแล้ว ยังช่วยเพิ่มความผ่อนคลายขณะใช้งานได้ด้วยนะ โดยพื้นกระเบื้องห้องน้ำเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการตกแต่งที่เดี่ยว เพราะกระเบื้องเป็นวัสดุปูพื้นที่มีลวดลายหลากหลาย สามารถเลือกให้ตรงกับความต้องการได้ง่าย วันนี้เรามีไอเดียพื้นกระเบื้องสำหรับแบบห้องน้ำโมเดิร์น ที่จะช่วยให้ห้องน้ำของคุณสวย ล้ำสมัย มาฝากกัน ไปชมกันเลย แต่ก่อนเรามาดูกันก่อนว่าควรเลือกพื้นกระเบื้องแบบไหนดี? ให้เหมาะกับห้องน้ำแบบโมเดิร์นของบ้านเรากัน พื้นกระเบื้องสำหรับห้องน้ำสไตล์โมเดิร์นควรเลือกแบบไหนดี? เลือกที่ลวดลาย การแต่งห้องน้ำสไตล์โมเดิร์นนิยมใช้แผ่นกระเบื้องที่ไม่มีลวดลายจัดจ้านมากเกินไปนัก โดยส่วนใหญ่นิยมตกแต่งด้วยความเรียบง่าย คุมโทนสีเรียบ ๆ แต่หรูหรา เช่น สีดำ สีเทา สีขาว และสีน้ำตาล โดยหากเป็นกระเบื้องที่มีลวดลายมักใช้ลายจากธรรมชาติ เช่น ลายหินธรรมชาติ ลายหินอ่อน เลือกที่ขนาด เลือกขนาดให้เหมาะสมกับห้องน้ำของเรา เลือกพื้นกันลื่นเพื่อความปลอดภัย พื้นกระเบื้องกันลื่นเป็นปัจจัยสำคัญที่มองข้ามไม่ได้สำหรับพื้นห้องน้ำสไตล์โมเดิร์น โดยควรเลือกกระเบื้องที่มีค่า R (Slip Resistance) ซึ่งเป็นค่ากันลื่นของแผ่นกระเบื้องทั่วไป เช่น กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องแกรนิตโต้ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ หากกระเบื้องมีค่า R สูง แม้เปียกน้ำก็จะยังกันความลื่นได้ดี ทั้งนี้พื้นกระเบื้องห้องน้ำส่วนใหญ่ควรเลือกที่ …

ไอเดียล้ำๆ แต่งห้องน้ำสไตล์โมเดิร์น สวย ล้ำสมัย ด้วยพื้นกระเบื้อง Read More »

แก้ปัญหา เชื้อรา

วิธีป้องกันไม่ให้เชื้อราขึ้นอ่างล้างจาน กันไว้ก่อนดีกว่ามารู้สึกเสียใจที่หลัง

วิธีป้องกันไม่ให้เชื้อราขึ้นอ่างล้างจาน กันไว้ก่อนดีกว่ามารู้สึกเสียใจที่หลัง เชื้อรา เป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญกับห้องครัวของเราเสมอ ซึ่งนับเป็นเรื่องธรรมดาเนื่องจากห้องครัวนั้นมีความชื้นจากจุดต่างๆ มากมายหลากหลาย และสำหรับอ่างล้างจานหรือซิงก์ล้างจานนั้นถือเป็นหนึ่งในจุดที่เกิดเชื้อราได้ง่ายมากๆ แล้วเราจะป้องกันเชื้อราไม่ให้เกิดขึ้นที่ซิงก์ล้างจานได้อย่างไร ในวันนี้เรามีความรู้เล็กน้อยที่ช่วยลดปัญหาเหล่านี้ลงได้ สำหรับอ่างล้างจานนั้นจุดที่จะเกิดเชื้อรานั้นมักเกิดบริเวณรอบอ่างล้างจานไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างจานแบบฝัง หรือขอบอ่างล้างจานวางอยู่บนเคาน์เตอร์ก็ตาม ซึ่งมีการปิดผนึกด้วยซิลิโคนเคลือบหลุม แต่เมื่อเวลาผ่านไป สารเคลือบนี้หลุดสามารถทำให้ความชื้นซึมเข้าไปทำให้เกิดเชื้อราและมีโอกาสเติบโตได้ วิธีป้องกันเชื้อรา เพื่อป้องกันอ่างล้างจานของคุณ คุณจะต้องคำนึงถึงซีลของอ่างล้างจาน มองหาน้ำที่ไหลอยู่รอบๆ ก๊อกน้ำ และตรวจสอบท่อน้ำของคุณเป็นครั้งคราว ตรวจสอบจุดซีล คอยเช็กดูเชื้อราหรือราขึ้นรอบๆ ขอบอ่าง และแก้ไขช่องว่างเหล่านั้น สังเกตน้ำสะสม คุณเคยเปิดก๊อกน้ำแล้วสังเกตว่ามีน้ำสะสมอยู่ด้านบนของเคาน์เตอร์แล้วไม่แน่ใจว่าน้ำนั้นมาจากไหนไหม ซึ่งก๊อกน้ำนั้นมีประเก็นยางป้องกันการรั่วซึม และเมื่อเวลาผ่านไป ประเก็นเหล่านั้นอาจพังได้ หากเกิดเหตุการณ์นี้อย่ารอช้าให้โทรหาช่างประปาแล้วเร่งเปลี่ยน หรือเปลี่ยนก๊อกน้ำทั้งหมด ตรวจสอบท่อใต้อ่างล้างจานของคุณ ทั้งวาล์ว 2 ตัว ที่สามารถปิดการจ่ายน้ำสำหรับทั้งท่อน้ำร้อนและท่อน้ำเย็น ท่อระบายน้ำซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเริ่มแตกหรือคลายออกทำให้เกิดการรั่วไหลถ้ามันมีรอยรั่ว และมันจะทิ้งคราบน้ำไว้ที่ด้านล่างของอ่างล้างจาน สิ่งสำคัญคือต้องตรวจหาคราบน้ำหรือน้ำหยดและการรั่วไหลอย่างช้าๆเป็นประจำ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีใครตรวจพบ ลองนำวิธีที่เราแนะนำไปมช้กันดู รับรองช่วยลดปัญหาเชื้อราลงได้แน่นอน

วิธีช่วยให้ตู้เย็นที่ของบ้าน ไม่ทำงานหนักมากเกินจนเกินไป !!!

วิธีช่วยให้ตู้เย็นที่ของบ้าน ไม่ทำงานหนักมากเกินจนเกินไป !!!

วิธีช่วยให้ตู้เย็นที่ของบ้าน ไม่ทำงานหนักมากเกินจนเกินไป !!! เราคงทราบกันดีว่าตู้เย็นนั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานหนักที่สุดในบ้าน เนื่องจากส่วนใหญ่เราจะเสียบปลั๊กตู้เย็นไว้ตลอดทั้งเวลา ดังนั้นนอกจากตู้เย็นจะกินเงินในกระเป๋าของเราแล้ว ยังกระทบต่อการใช้พลังงานซึ่งส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ถ้าคุณอยากทำให้ตู้เย็นช่วยประหยัดพลังงาน เรามีคำแนะนำที่จะทำให้ตู้เย็นของคุณจะทำงานได้ดีขึ้นและไม่ทำงานหนักจนเกินไป เรามาดูกันเลย เลือกตู้เย็นเป็นรุ่นประหยัดพลังงาน ตู้เย็นนั้นมีวิวัฒนาการมายาวไกลในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานตู้เย็นเมื่อ 5-10 ปีที่แล้วอาจทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าตู้เย็นรุ่นใหม่ถึง 2 เท่า ถ้าใช้ตู้เย็นมานานแนะนำให้เปลี่ยนเป็นรุ่นประหยัดพลังงาน ให้ตู้เย็นมีที่เย็น และมีพื้นที่สำหรับหายใจ ตำแหน่งของตู้เย็นอาจส่งผลต่อการทำงานหนักของตู้เย็น แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าตู้เย็นอยู่ห่างจากแหล่งความร้อน เช่นเตาอบ หม้อน้ำ และพยายามอย่าให้โดนแสงแดดโดยตรงนอกจากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่ว่างรอบๆ ด้านข้าง ด้านหลัง และด้านบนของตู้เย็นอย่างน้อย 5 ซม. เพื่อระบายอากาศ หากไม่มีช่องว่าง ตู้เย็นของคุณอาจจะไม่สามารถระบายความร้อนออกจากคอมเพรสเซอร์ได้ ปิดประตูไว้ สิ่งที่ทำให้ลมเย็นทั้งหมดออกเพราะปิดประตูตู้เย็นไม่สนิท นอกจากลมเย็นจะออกแล้วจะมีลมอุ่นเข้ามา ดังนั้นตู้เย็นจะทำงานหนักขึ้น ดังนั้นพยายามเปิดประตูตู้เย็นให้น้อยที่สุดเพื่อลดการทำงานหนักของตู้เย็น จัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบ บางคนอาจบอกว่าการจัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบนั้นอาจช่วยในเรื่องการทำความสะอาดได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ยิ่งคุณใช้เวลาในการค้นหาอาหารน้อยเท่าไร ก็ช่วยไม่ให้ตู้เย็นทำงานหนัก นอกจากนั้นหากคุณจัดระเบียบตู้เย็นจะทำให้อาหารอยู่ได้นานยิ่งขึ้น รักษาความเย็นให้ตู้เย็นด้วยการเก็บของประมาณ 2/3 ของตู้เย็น การใส่ของไว้ในตู้เย็นให้มีอากาศถ่ายเทน้อยทำให้ตู้เย็นไม่ต้องทำงานหนักดังนั้นไม่ควรปล่อยให้ตู้เย็นโล่งจนเกินไป แต่ก็ไม่ใช่ใส่ของจนล้นตู้เย็น หรือถ้าตู้เย็นของคุณใหญ่จนเกินไปให้เติมน้ำในเหยือก 2 เหยือกแล้วนำไปแช่ตู้เย็น จัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม ใช้ภาชนะที่ปลอดภัยต่อตู้เย็นเพื่อเก็บอาหารทั้งหมด ภาชนะแก้วดีกว่าพลาสติกเพราะแก้วดูดซับและเก็บความเย็นได้ดีกว่า ความชื้นในตู้เย็นจะทำให้อุณหภูมิภายในคงที่ได้ยากขึ้น ดังนั้นนำอาหารใส่ภาชนะแล้วปิดให้สนิทเพื่อเลี่ยงไม่ให้คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นทำงานมากเกินไป …

วิธีช่วยให้ตู้เย็นที่ของบ้าน ไม่ทำงานหนักมากเกินจนเกินไป !!! Read More »

มุมจิบกาแฟในสวนสวยๆ หลังบ้าน แบบไม่ต้องง้อคาเฟ่

มุมจิบกาแฟในสวนสวยๆ หลังบ้าน แบบไม่ต้องง้อคาเฟ่ ในปัจจุบันสถานการณ์ในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 บางสถานที่ก็มีการล็อคดาวน์ทำให้เราต้องอยู่แต่ในบ้านของเราออกไปไหนไม่ได้ สร้างความหงุดหงิดใจให้กับเหล่าสายคาเฟ่หรือคอกาแฟอยู่ไม่น้อย แต่ถึงแม้เราจะอยู่ที่บ้านเราก็สามารถมีมุมจิบกาแฟในสวนสวยๆ ได้ โดยเราได้รวมรวมมุมจิบกาแฟในสวนที่สามารถทำได้ที่บ้านของคุณได้หลากหลายสไตล์ ให้สามารถนั่งพักผ่อนชิลล์ๆ หรือจะถ่ายภาพอวดชาวโซเชียลให้อิจฉากันได้อีกด้วย มาดูกันเลย สวนไม้กระถางบนดาดฟ้า สวนดาดฟ้าเล็กๆบนปกหนังสือ Easy Little Garden สวนเล็กๆ ดูแลง่าย ของบ้านหลังนี้เป็นอีกไอเดียสวนที่จัดง่ายๆด้วย สวนไม้กระถาง ฟอร์มสวยและทนอย่างพวกแคคตัสและไม้อวบน้ำ ซึ่งนำไปปรับใช้กับพื้นที่จำกัดอย่างสวนระเบียง หรือสวนหลังบ้านได้ไม่ยากเลยทีเดียว ดาดฟ้าของบ้านหลังนี้เป็นพื้นคอนกรีตทั้งหมดและมีการยกพื้นบางส่วนขึ้นมาแต่แรก พื้นที่ส่วนที่ยกสูงปรับเปลี่ยนใหม่โดยปูพื้นไม้เทียมเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เอาท์ดอร์แบบลอยตัวจาก IKEA ดูแลรักษาง่าย ตกแต่งด้วยไม้กระถางทั้งหมดเน้นไม้ขนาดกลางและเล็กเน้นจัดกลุ่มกันและเล่นระดับสูงต่ำ เลือกใช้พรรณไม้ชนิดที่ทนอากาศร้อนและแล้งได้ดี ใช้กระถางดินเผา กระถางคอนกรีต และกระถางไฟเบอร์กลาส คุมโทนสีเรียบ ๆไม่ฉูดฉาด และมีมุมวางโต๊ะทำงานเล็กๆ ในสวน ริมน้ำตกในสวนป่า สวนสไตล์ทรอปิคัลซึ่งมีน้ำตกเป็นจุดศูนย์กลางของสวนทอดยาวเชื่อมต่อพื้นที่จากน้ำตกบริเวณสวนหน้าบ้านไปยังลานระเบียงไม้บริเวณหลังบ้านอีกทั้งมีมุมนั่งเล่นแทรกอยู่รอบๆสวนอย่างลงตัว มุมนั่งจิบกาแฟได้เรื่อยๆ เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยผนังไม้เลื้อย ในสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องออกจากบ้านน้อยลง อยู่บ้านให้มากขึ้น อาจทำให้คิดถึงช่วงเวลาแห่งการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนหรือออกไปค้นพบดินแดนแปลกใหม่ไกลจากบ้าน พื้นที่สวนแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งด้วยลักษณะพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ทำให้พื้นที่สองฝั่งมีขนาดไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งจัดเป็นสวนคอร์ตยาร์ดที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง สามารถจัดวางองค์ประกอบส่วนต่างๆ ให้มีสัดส่วนการใช้งานที่หลากหลายแตกต่างกันไป เช่น มุมนั่งเล่น มุมประดับประติมากรรม กระถาง …

มุมจิบกาแฟในสวนสวยๆ หลังบ้าน แบบไม่ต้องง้อคาเฟ่ Read More »

4 กลิ่นหอมจากธรรมชาติ เปลี่ยนบ้านเป็นสปา ช่วยลดความเครียด

4 กลิ่นหอมจากธรรมชาติ เปลี่ยนบ้านเป็นสปา ช่วยลดความเครียด การผ่อนคลายเครียดมีหลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เล่นเกม ฟังเพลง หรือเล่นกีฬาโปรด บางคนก็อาจจะไปช้อปปิ้งหรือเข้าสปา แต่สำหรับคนที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ไม่ว่าจะจากการเรียนหรือทำงาน หมดพลังจะไปทำกิจกรรมต่าง ๆ มาทั้งวัน แล้วอยากหาอะไรที่ช่วยคลายเครียดแบบไม่ต้องออกแรง ถ้าอย่างนั้นลองหาน้ำมันหอมระเหย สเปรย์ปรับอากาศ ก้านไม้หอม หรือเทียนหอมพร้อมกลิ่นอโรม่าทั้ง 4 กลิ่นที่เราจะแนะนำในวันนี้ บอกเลยว่าแค่ได้กลิ่นก็ช่วยคลายความตึงเครียด ทำให้อารมณ์ดีขึ้น แถมช่วยในการนอนหลับพักผ่อนให้สบายได้อีกด้วย กลิ่นมะลิ (Jasminum) สำหรับกลิ่นหอมเย็นจากดอกไม้ชนิดนี้ ก็มีฤทธิ์ในการผ่อนคลายความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล รวมถึงบรรเทาอาการซึมเศร้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่นอนหลับยาก กลิ่นมะลิจะช่วยให้นอนหลับได้ง่าย สบายกายสบายใจ ในขณะเดียวยังช่วยทำให้มีสมาธิในการทำงาน-การเรียนมากขึ้น กลิ่นเปเปอร์มินต์ (Peppermint) สำหรับคนที่อยากได้กลิ่นหอมช่วยบูทพลังให้สมองและร่างกาย แต่ไม่อยากพึ่งคาเฟอีนจากกาแฟแล้วละก็ บอกเลยว่ากลิ่นของเปเปอร์มินต์นั้น ทั้งช่วยลดความเครียด ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ลดความรูสึกกระวนกระวาย ที่สำคัญคือช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นและตื่นเช้าด้วยอารมณ์ที่สดใส กลิ่นเลมอน (Lemon) ไม่ใช่แค่กลิ่นเลมอนเท่านั้น แต่กลิ่นของผลไม้ในตระกูลซิตรัส (Citrus Fruit) ชนิดอื่น ๆ เช่น กลิ่นส้ม …

4 กลิ่นหอมจากธรรมชาติ เปลี่ยนบ้านเป็นสปา ช่วยลดความเครียด Read More »

เคล็ด(ไม่)ลับในการจัดห้องให้สว่าง-CV

เคล็ด(ไม่)ลับในการจัดห้องให้สว่าง เพิ่มบรรยากาศสดชื่นสดใสมากขึ้น

เคล็ด(ไม่)ลับในการจัดห้องให้สว่าง เพิ่มบรรยากาศสดชื่นสดใสมากขึ้น ถ้าเราเปิดห้องรับแสงสักหน่อย พร้อมกับจัดห้องให้มีแสงสว่างเพียงพอ ก็จะสามารถเปลี่ยนบรรยากาศจากห้องอุดอู้ในเดิม ๆ ให้สว่าง เพิ่มเติมความสดใส และยังทำให้น่าอยู่ขึ้นได้ ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่ต้องใช้เวลาอยู่ในห้องนานๆ เป็นพิเศษ การจัดห้องให้ดูสว่างและโปร่งสบาย จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้มากกว่าเดิมด้วยนะ โดยสิ่งที่มีผลกับแสงภายในห้องนั้น ก็รวมตั้งแต่ การตกแต่งภายในไปจนถึง เรื่องการเลือกของใช้ คุมโทนสีอ่อนบนผนัง เพดาน และพื้นห้อง พื้นผิวและสีที่แตกต่างกัน จะมีความสามารถในการสะท้อน และ กระจายแสงที่ต่างกันออกไป อย่างสีในโทนอ่อน หรือ พื้นผิวที่เรียบมันวาว จะสะท้อนและกระจายแสงได้ดีกว่าสีเข้ม หรือ พื้นผิวที่ด้านและขรุขระ เพราะฉะนั้นถ้าหากเลือกใช้สี รวมถึงของตกแต่งภายในห้องที่ช่วยกระจายแสงได้ดี ก็จะทำให้ห้องสว่างขึ้นได้นั่นเอง โดยส่วนที่เป็นผนังห้องนั้นมักจะมีพื้นที่มากที่สุด การเลือกใช้สีจึงสำคัญมาก ถ้าต้องการให้ห้องสว่างอย่างเป็นธรรมชาติ จึงควรเลือกใช้สีผนังห้องในโทนอ่อน นอกจากนี้ในส่วนของเพดานและพื้นก็ควรมีสีอ่อนที่อยู่ในโทนเดียวกันด้วย ซึ่งการปรับภาพรวมของสีในห้องนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นการทาสี ปูกระเบื้องหรือใช้วอลเปเปอร์เท่านั้น แต่การใช้ภาพติดผนังขนาดใหญ่หรือใช้พรมปูพื้นก็สามารถช่วยได้ จัดการต้นไม้และสิ่งกีดขวางนอกหน้าต่าง เมื่อจัดเฟอร์นิเจอร์เรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมบรรดากระถางต้นไม้ต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ภายในห้องและนอกห้องกัน เพราะต้นไม้เป็นอีกอย่างที่ถ้าหากไม่จัดให้เป็นระเบียบก็จะกลายเป็นสิ่งที่บังแสงและทำให้ห้องดูรกทึบแทนที่จะสบายตา ต้นไม้ที่นำมาแขวนหรือวางริมหน้าจึงควรเป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่จัดการและดูแลง่าย ๆ ส่วนต้นไม้ขนาดใหญ่ก็สามารถวางไว้ด้านข้างให้พ้นบานหน้าต่างแทนการวางบังไว้โดยตรง นอกจากนี้ก็อาจมีต้นไม้และสิ่งกีดขวางด้านนอกที่ทำให้แสงจากหน้าต่างผ่านเข้ามาได้ไม่เต็มที่ อาจจะเป็นไม้เรื้อยหรือกิ่งก้านของต้นไม้ที่ไม่ได้ตัดแต่ง รวมไปถึงชั้นวางและข้าวของต่าง ๆ ตรงจุดนี้เป็นด่านสุดท้ายที่หลายคนอาจลืมถึงนึกไปทั้งที่สามารถช่วยให้ภายในบ้านดูสว่างสดใสขึ้นได้ไม่แพ้วิธีอื่นเลย ใช้ม่านกรองแสงในช่วงกลางวัน …

เคล็ด(ไม่)ลับในการจัดห้องให้สว่าง เพิ่มบรรยากาศสดชื่นสดใสมากขึ้น Read More »