ไอเดียแต่งบ้าน

white

เทคนิคการดูแปลนบ้านและปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

white

แปลนบ้าน
แปลนบ้านเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะซื้อบ้านหรือสร้างบ้านเอง แปลนบ้านที่ดีนอกจากจะทำให้บ้านน่าอยู่แล้ว บ้านหลังนั้นยังตอบโจทย์การพักอาศัยอีกด้วย และหากคุณพลาดเลือกแปลนบ้านไม่ดีหรือไม่เข้ากับตัวของคุณมันก็ยากที่จะแก้ไข วันนี้เราจะบอกเคล็ดลับการดูกันดีกว่าว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณาสำหรับเลือกแปลนบ้านที่รักของเราบ้าง ไปดูกันเลย

  • ขนาดพื้นที่ดิน และขนาดตัวบ้าน

ก่อนเลือกแปลนบ้านควรพิจารณาจำนวนคนในครอบครัว และงบประมาณ นอกจากนั้นควรเลือกแปลนบ้านง่ายๆ ที่สำคัญกฎหมาย พ.ร.บ. ควบคุมอาคารกำหนดให้ต้องมีระยะห่างระหว่างตัวบ้านกับรั้วอย่างน้อย 2 เมตรสำหรับบ้าน 2 ชั้น และอย่างน้อย 3 เมตรสำหรับบ้าน 3 ชั้น

ดังนั้นขนาดความกว้างของตัวบ้านจึงต้องน้อยกว่าความกว้างของที่ดินอย่างน้อย 4 เมตร
และความยาวของตัวบ้านก็ต้องน้อยกว่าความยาวของที่ดินอย่างน้อย 4 เมตรเช่นกัน นอกจากนั้นแปลนบ้านควรสอดคล้องกับรูปทรงของที่ดิน เช่นที่ดินเป็นทรงหน้ากว้าง แปลนบ้านก็ควรเป็นแบบหน้ากว้าง และที่ดินเป็นทรงลึก แปลนบ้านก็ควนเป็นแบบทรงลึกเหมือนกัน

  • สภาพแวดล้อม

การจัดวางห้องต่างๆ ในแปลนบ้านต้องคำนึงถึงการใช้สอยและสภาพแวดล้อม เช่นห้องนอน และห้องทำงานที่ต้องการความเงียบก็ควรอยู่ในด้านที่ไม่มีเสียงดัง เช่นห้องนอนไม่ควรอยู่ติดถนน หรือด้านที่ติดกับสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน

สภาพแวดล้อม

  • ทิศแดด และทิศทางลม

    ควรกำหนดให้ห้องน้ำ ลานซักล้าง หรือห้องที่มีความชื้น รวมไปถึงห้องที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ อย่างห้องเก็บของ รวมถึงบริเวณที่ได้รับแดดแรงอย่างลาดจอดรถหันไปทางทิศตะวันตกที่รับแดดบ่าย เพื่อช่วยลดความร้อนของตัวบ้าน ควรปลูกต้นไม้หรือสร้างโครงสร้างเพื่อบังแดด

    สำหรับห้องที่ใช้งานประจำ ทั้งห้องรับแขก ห้องนอน และห้องนั่งเล่น ควรอยู่ในทิศที่รับลมซึ่งก็คือทิศเหนือ (จากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) และทิศใต้ (จากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงมีนาคม-ตุลาคม) เพื่อให้บ้านเย็นสบายขึ้นและช่วยประหยัดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศ และถ้าเหมาะสมกับรูปทรงของที่ดิน

    ทิศแดด และทิศทางลม

  • ประตู และหน้าต่าง

    แปลนบ้านที่ดีไม่ควรมีประตูและหน้าต่างตรงกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ลมเข้ามาแล้วออกไปเลยทันที ซึ่งทำให้บ้านไม่ได้รับความเย็นเท่าที่ควร และบ้านขาดการหมุนเวียนถ่ายเทของอากาศภายในบ้าน

    นอกจากนี้ตำแหน่งของประตูและหน้าต่างยังสอดคล้องกับทิศรับลมและถ่ายเทอากาศภายในบ้านด้วย เช่นควรมีประตูด้านที่รับลมโดยอาจสร้างที่ห้องรับแขก หรือมุมนั่งเล่น และควรมีหน้าต่างในด้านที่รับลมมากกว่าด้านที่ไม่รับลม

    เรื่องของจำนวนหน้าต่างที่พอเหมาะกับการรับลม และแสงสว่าง เช่นห้องนอนไม่ควรมีหน้าต่างมาก หรือหน้าต่างขนาดใหญ่ในทิศตะวันตกและทิศตะวันออก เพราะแสงแดดจากทิศเหล่านี้ทำให้ห้องร้อน

ประตู และหน้าต่าง

  • ไลฟ์สไตล์ กับประโยชน์ใช้สอยในแปลนบ้าน

    ก่อนจะคิดว่ามีห้องอะไรบ้างควรทราบจำนวนคน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนก่อน โดยเฉพาะห้องนอน ห้องน้ำ หรือควรมีห้องอะไรเพิ่มเติมจากห้องหลัก และห้องแต่ละห้องควรมีจำนวนเท่าไร ซึ่งแปลนบ้านมี 2 ประเภทคือ

    ไลฟ์สไตล์ กับประโยชน์ใช้สอยในแปลนบ้าน

  • แปลนห้องแบบเปิด คือ การจัดให้พื้นที่หนึ่งมีมุมใช้สอยหลายอย่าง เช่น ห้องโถงที่ประกอบด้วยบริเวณรับแขก บริเวณทานอาหาร และบริเวณเตรียมอาหาร และห้องนอนขนาดใหญ่ที่ผนวกเป็นห้องนั่งเล่น และห้องทำงานในตัว

    ข้อดี : รับแสงสว่างจากธรรมชาติได้ทั่วถึงกว่าแปลนแบบมีพื้นที่ปิด ทำให้ดูมีพื้นที่กว้างขึ้น และสามารถดัดแปลงการใช้สอยให้เหมาะสมได้

    ข้อเสีย : บริเวณต่างๆ นี้มีการใช้สอยแตกต่างกัน และการเชื่อมต่อบริเวณเหล่านี้อาจส่งผลเรื่องความเป็นระเบียบ ความเป็นส่วนตัว และความสะอาด เช่นกลิ่นอาหารรบกวน แสงไฟส่องสว่างจากห้องทำงานรบกวนมาถึงห้องนอน

  • แปลนห้องแบบปิด คือ การจัดให้ห้องหนึ่งมีพื้นที่ใช้สอยเฉพาะด้าน เหมาะกับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัวและความเป็นระเบียบ เนื่องจากช่วยจัดให้บ้านเป็นสัดเป็นส่วน ออกแบบธีมแต่ละห้องให้เหมาะกับการใช้สอยและสไตล์ ดังนั้นห้องที่เหมาะสำหรับแปลนแบบนี้ควรเป็นห้องที่มีความเป็นส่วนตัว เช่นห้องนอน ห้องทำงาน ห้องครัว และห้องพระ

    ข้อเสีย : ใช้งบประมาณมากกว่าแปลนห้องที่เป็นพื้นที่เปิด และอาจไม่ได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติมาก และทั่วถึงนัก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการจัดวางหน้าต่างและทิศรับแดดด้วย

เท่านี้ท่านก็สามารถดูแปลนบ้านในระดับเบื้องต้นแล้ว ใครที่กำลังจะมองบ้านหรือสร้างบ้านก็อย่าลืมเอาไปใช้กันนะ