สำรวจพื้นที่ภายในบ้านก่อนซ่อมบำรุง ต้องดูตรงจุดไหน เพื่อให้ซ่อมแซมได้ครบถ้วน

สำหรับใครที่ต้องการจะบำรุง หรือซ่อมแซมรีโนเวทบ้านอันเป็นที่รักของตนเองให้สวยเหมือนใหม่อยู่ล่ะก็ วันนี้เราขอเสนอ จุดที่ควรเช็คหรือดูให้แต่ละส่วนของบ้าน เพื่อให้การซ่อมแซมบ้านขอเราครบถ้วนทุกจุด แล้วเราควรจะต้องสำรวจที่จุดไหนกันบ้าง วันนี้เราจะพาไปดูกัน
พื้นที่ภายในบ้าน
ฝ้าเพดาน
เริ่มต้นกันที่ฝ้าเพดานซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นได้ง่ายเมื่อเกิดความเสียหาย โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบนฝ้าเพดานมักเป็นการรั่วซึม ซึ่งมองเห็นได้ด้วยร่องรอยความเปียกชื้น คราบเชื้อรา ไปจนถึงน้ำหยดจากฝ้าเพดาน โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นจากท่อประปารั่วซึม หากพบเห็นควรเรียกช่างมาตรวจสอบหรือซ่อมแซมโดยทันที เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาอาจลุกลามทำให้ฝ้าถล่มเสียหายใหญ่ได้
พื้นและผนัง
พื้นและผนังเป็นอีกจุดหนึ่งในบ้านที่เสียหายจากการรั่วซึมได้เช่นกัน สังเกตง่าย ๆ ได้จากคราบน้ำ เชื้อรา ไปจนถึงสีผนังและวัสดุปูพื้นลอกล่อน นอกจากนี้ควรสำรวจด้วยว่าพื้นและผนังมีรอยแตกร้าวเสียหายหรือไม่ และหากพบความผิดปกติตามที่ได้กล่าวมานี้ ควรเรียกช่างมาซ่อมโดยทันที เพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดปัญหาเชิงโครงสร้างตามมาได้ หรืออาจพิจารณาว่าจะเปลี่ยนประเภทพื้นและผนังในบ้านหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาเดิมกลับมาอีกครั้ง
ระบบไฟฟ้าและประปา
ระบบไฟฟ้าและประปา เป็นอีกส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในที่อยู่อาศัยทุกประเภท หากเกิดปัญหาเสียหายขึ้นมา นอกจากจะขัดขวางการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อสมาชิกในบ้านได้ โดยการสำรวจระบบไฟฟ้าและประปาก่อนซ่อมบ้าน สามารถทำได้เบื้องต้นด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- ระบบไฟฟ้า ควรสำรวจสายไฟทั้งภายในและภายนอกบ้าน หากเจอสายไฟขาดชำรุด ควรเปลี่ยนสายไฟโดยทันที และควรสำรวจปัญหาไฟรั่วด้วยการปิดสวิตช์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกจุด และตรวจดูมิเตอร์ไฟฟ้า หากเฟืองยังหมุนอยู่แสดงว่ามีไฟรั่ว ควรเรียกช่างมาซ่อมบ้านโดยทันที
- ระบบประปา นอกจากการสำรวจร่องรอยการรั่วซึมตามพื้นและผนัง ควรปิดก๊อกน้ำทุกจุดในบ้าน และตรวจดูมิเตอร์น้ำว่ามีมาตรวัดเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากตัวเลขเคลื่อนไหวแสดงว่ามีท่อน้ำรั่วในบ้าน ควรรีบหาจุดที่คาดว่ารั่วซึม และใช้วิธีสังเกตง่าย ๆ ด้วยการพันทิชชู่ไว้ที่ท่อประปาและสังเกตว่าทิชชู่เปียกชื้นหรือไม่
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ
สุขภัณฑ์และก๊อกน้ำเป็นอีกจุดที่เป็นต้นตอของปัญหาระบบประปาได้ สำหรับก๊อกน้ำมีน้ำหยดเป็นจุดที่สังเกตได้ง่าย หากพบเห็นควรซ่อมแซมทันที แต่สำหรับโถสุขภัณฑ์สามารถสำรวจได้ด้วยการใส่สีผสมอาหารลงในถังพักน้ำ จากนั้นรอดูว่ามีน้ำในโถสุขภัณฑ์มีสีไหลเข้ามาผสมหรือไม่ หากมีแสดงว่าเกิดการรั่วซึม หรือสังเกตดูตามขอบโถสุขภัณฑ์หากมีน้ำไหลเจิ่งนองก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการรั่วซึมเช่นกัน
เครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นสำคัญที่ช่วยเพิ่มความเย็นสบายในบ้าน ความผิดปกติเกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศจึงสังเกตเห็นได้ง่าย เช่น แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เสียงดัง มีน้ำหยด ไปจนถึงแอร์ตัดบ่อยก็ถือเป็นสัญญาณของปัญหาได้เช่นกัน ดังนั้นหากพบความผิดปกติควรเรียกช่างมาซ่อมโดยทันที
พื้นที่ภายนอกบ้าน
หลังคาและฉนวนกันความร้อน
หลังคาเป็นจุดที่ต้องเผชิญสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ทั้งแดด ลม ฝน ทำให้มีโอกาสที่กระเบื้องหลังคาหรือวัสดุมุงหลังคาประเภทอื่น ๆ อาจเสื่อมสภาพ แตกร้าวเสียหาย และรั่วซึมได้ ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติที่ฝ้าเพดานเสมอว่ามีเสียงน้ำไหลอยู่เหนือฝ้า หรือบนฝ้ามีคราบน้ำหรือฝ้าบวมเสียหายหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วไม่ได้เกิดจากท่อรั่วซึม ก็อาจเกิดจากหลังคารั่วนั่นเองนอกจากนี้ยังมีปัญหาบ้านร้อน ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงปัญหาที่เกิดจากอากาศภายนอกเท่านั้น แต่อาจเกิดจากโครงสร้างบ้านได้ โดยปัญหานี้อาจเกิดจากฉนวนกันความร้อนเสื่อมสภาพ หรือบริเวณไม่ได้ติดตั้งฉนวนกันความร้อนนั่นเอง ดังนั้นหากมีปัญหาบ้านร้อนผิดปกติควรลองสำรวจดูที่บริเวณหลังคา และเรียกช่างมาซ่อมบ้านโดยทันที
ประตูและหน้าต่าง
การรั่วซึมไม่ได้จำกัดอยู่ที่สาเหตุระบบประปาในบ้านเท่านั้น แต่อาจเกิดจากประตูหรือหน้าต่างรั่วซึมได้เช่นกัน ปัญหาตรงจุดนี้อาจเกิดจากวัสดุอุดรอยต่อที่ขอบหน้าต่างและวงกบประตูเสื่อมสภาพ เมื่อมีฝนตกควรสังเกตว่ามีน้ำซึมเข้ามาตามขอบหน้าต่างหรือประตูหรือไม่ หากพบเห็นควรแจ้งช่างซ่อมบ้านให้ทราบโดยทันที
ผนังภายนอก
นอกจากผนังภายในบ้านแล้ว ควรสำรวจผนังภายนอกด้วยเช่นกัน โดยตรวจดูทั้งความสวยงามว่าสีสันซีดจางหรือสีลอกล่อน ไปจนถึงมีรอยแตกลายงาหรือไม่ เพราะจะทำให้บ้านดูเก่าโทรม ไม่น่าอยู่อาศัย และควรสำรวจรอยร้าวที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะหากเป็นรอยแตกร้าวในแนวดิ่ง อาจเป็นสัญญาณของปัญหาโครงสร้างบ้าน ซึ่งส่งผลให้บ้านถล่มลงมาได้เลยทีเดียว
พื้นภายนอก
พื้นนอกบ้านไม่ว่าจะเป็นพื้นหน้าบ้านหรือพื้นลานจอดรถ เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ไม่ควรทิ้งไว้หากพบความผิดปกติ ก่อนซ่อมบ้านจึงควรตรวจสอบว่า มีพื้นบริเวณไหนเสียหายต้องซ่อมแซมบ้าง หากเป็นพื้นกระเบื้องควรสังเกตดูว่ามีรอยแตกร้าวหรือกระเบื้องหลุดล่อนหรือไม่ ไปจนถึงดูว่าพื้นมีตะไคร่น้ำเกาะ หรือพื้นลื่นกว่าปกติหรือไม่ ควรให้ช่างซ่อมแซมหรือปูพื้นใหม่ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
และสำหรับบ้านที่ปูพื้นเป็นพื้นคอนกรีต ควรสำรวจรอยแตกร้าวหรือหลุมบ่อ ว่ามีความเสียหายมากเพียงใด เพื่อประเมินว่าควรใช้ซีเมนต์ซ่อมแซมอุดรอยร้าวตามจุดต่าง ๆ หรือควรเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเสียใหม่ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อทุกคนในครอบครัว
รางน้ำฝน
สุดท้าย คือ รางน้ำฝนซึ่งเป็นจุดที่หลายคนอาจมองข้าม โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นกับรางน้ำฝนมักเป็นการอุดตันหรือรั่วซึม เพราะรางน้ำฝนเป็นจุดที่รับน้ำฝนและสิ่งสกปรกต่าง ๆ โดยตรง เมื่อใช้งานเป็นเวลานานก็อาจเสื่อมสภาพได้ ดังนั้นควรสังเกตดูว่ามีสิ่งแปลกปลอม เช่น ใบไม้ เศษขยะ เข้าไปอุดตันหรือไม่ และสังเกตด้วยว่ามีจุดไหนที่มีน้ำหยดหรือไม่ เพราะหากไม่รีบแก้ไข อาจทำให้น้ำซึมเข้าบ้านเป็นปัญหาต่อโครงสร้างได้ ดังนั้นรางน้ำฝนจึงเป็นจุดสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการซ่อมบ้านนั่นเอง

หลังจากสำรวจพื้นที่บ้านกันอย่างครบถ้วนทุกจุดกันแล้วนั้น การซ่อมบ้านให้ถูกจุดแล้วควรเลือกสรรบริการซ่อมบ้านที่มีคุณภาพ เพราะหากไม่เลือกช่างซ่อมให้ดี ก็อาจทำให้ปัญหาเดิม ๆ กลับมาอีกได้ อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะเจอช่างที่ไม่ได้มาตรฐาน ทิ้งงานระหว่างทาง ทำให้เสียทั้งเวลา ดังนั้นควรเลือกคช่างหรือบริษัทที่น่าเชื่อถือและน่าไว้ใจ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ทิ้งงานระหว่างทาง หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม